บทที่ 1 การปลุกพลัง
เสียงฝนพรำกระทบหน้าต่าง กลายเป็นท่วงทำนองประกอบฉากที่กำลังเปิดม่านขึ้นภายในห้อง
บนเตียง สองร่างพันเกี่ยวกัน ลมหายใจและเสียงครวญครางแผ่วเบาผสานรวมกันท่ามกลางความเงียบงันและบรรยากาศอันแนบชิด ทุกเสียงที่เล็ดลอดออกมาล้วนปลุกเร้าแรงปรารถนาจากส่วนลึก
แอนนา ไรซ์ หอบหายใจเบาๆ ปลายนิ้วของเธอขยุ้มลงบนบ่าของชายหนุ่ม กำแน่นขึ้นทุกครั้งที่เขาขยับ
เมื่อรับรู้ได้ถึงการตอบสนองของเธอ ร่างกายของชายคนนั้นก็เกร็งขึ้นทันที การเคลื่อนไหวของเขารุนแรงและล้ำลึกยิ่งขึ้น ราวกับจะเทความปรารถนาทั้งหมดลงในช่วงเวลานี้ หยาดเหงื่อไหลลงมาตามใบหน้า หยดลงบนผิวกายที่สั่นระริกของเธออย่างเงียบงัน ก่อให้เกิดระลอกคลื่นแห่งความซาบซ่านไปทั่วสรรพางค์กาย
เวลาราวกับเลือนหาย และในที่สุด พร้อมกับเสียงคำรามต่ำในลำคอ ห้องทั้งห้องก็ตกอยู่ในความเงียบ
ในภวังค์อันเลือนราง แอนนารู้สึกถึงบางสิ่งที่เย็นเยียบสวมลงบนนิ้วของเธอ เสียงทุ้มทว่าเย้ายวนของชายคนนั้นกระซิบข้างหู “รอฉันนะ... ฉันจะแต่งงานกับเธอ”
ความฝันอีโรติกในคืนนี้ช่างน่ารำคาญเป็นพิเศษ แอนนาเงื้อมือขึ้นอย่างฉุนเฉียวแล้วฟาดไปยังใบหน้าของชายคนนั้น
หลังเสียงตบดังลั่น แอนนาก็ลืมตาขึ้น พบว่ามือของเธอฟาดลงบนศีรษะล้านของด็อกเตอร์เจนกินส์
ด็อกเตอร์เจนกินส์ลูบศีรษะที่มันวาวของตัวเอง ไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัดแต่ไม่กล้าแสดงออก “คุณไรซ์ ได้เวลากลับบ้านแล้วครับ”
แอนนาตัวแข็งทื่อไปชั่วขณะ ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าวันนี้ครอบครัวไรซ์ส่งคนมารับเธอ
ขณะที่เธอลุกจากเตียงอย่างเกียจคร้าน ก็พบว่าข้าวของไม่กี่ชิ้นของเธอถูกจัดเก็บไว้อย่างเรียบร้อยแล้ว ภายใต้สายตาที่เปี่ยมด้วยความรักของด็อกเตอร์เจนกินส์ แอนนาเดินออกจากประตูใหญ่ของศูนย์ฟื้นฟูสุขภาพจิตอีเดนแวลลีย์
พระเจ้า ในที่สุดเธอก็ได้ออกจากที่นี่เสียที!
ข้างหลังเธอ ด็อกเตอร์เจนกินส์และเจ้าหน้าที่จำนวนมากกอดกันร้องไห้ด้วยความดีใจ
นับตั้งแต่แอนนามาถึงเมื่อสามปีก่อน ชีวิตของพวกเขาก็ตกลงสู่ขุมนรก
แอนนาไม่เพียงแต่มีไหวพริบเฉียบแหลม แต่ยังคล่องแคล่วว่องไวอีกด้วย ด้วยการใช้ทั้งไม้อ่อนและไม้แข็ง เธอก็สามารถทำให้ผู้ป่วยในศูนย์เชื่อฟังคำสั่งของเธอทุกอย่างได้อย่างรวดเร็ว
น่าแปลกที่ผู้ป่วยเหล่านั้นซึ่งสภาพจิตใจไม่ปกติอยู่แล้ว กลับพร้อมใจกันเชื่อฟังแอนนา ถึงขั้นเถียงและด่าทอเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์
ถ้าเจ้าหน้าที่ไม่ยอมทำตามเหรอ? ไม่มีปัญหา ตบสั่งสอนสักทีสองทีก็เรียบร้อย
สู้ไม่ได้เหรอ? ไม่ใช่เรื่องใหญ่ พวกเขาก็จะรวมตัวกันดักซุ่มโจมตี
หลังจากต่อสู้ดิ้นรนมาหลายปี ในที่สุดทีมแพทย์ก็ยอมจำนนโดยสิ้นเชิง
ใครจะเชื่อว่าทีมแพทย์ทั้งทีมในศูนย์ฟื้นฟูสุขภาพจิตจะถูกควบคุมโดยกลุ่มผู้ป่วยทางจิต?
แต่ฝันร้ายนี้ก็ได้สิ้นสุดลงแล้วในที่สุด
“บอส!” เสียงหนึ่งตะโกนขึ้น
ในไม่ช้า ทั่วทั้งศูนย์ฟื้นฟูก็ดังสะท้อนไปด้วยเสียงตะโกนเรียก “บอส!” อย่างพร้อมเพรียงกัน
เมื่อมองตามเสียงเรียก ก็เห็นผู้คนโผล่ออกมาจากกิ่งไม้และหน้าต่าง โบกมือให้แอนนาอย่างบ้าคลั่ง
“บอส ต้องกลับมาเยี่ยมพวกเราอีกนะ!”
เสียงสะท้อน “กลับมานะ กลับมานะ!” ดังตามมา
ใบหน้าของด็อกเตอร์เจนกินส์และเจ้าหน้าที่ที่ยืนดูอยู่พลันมืดครึ้มลงทันที
แอนนาโบกมือไปข้างหลังอย่างไม่ใส่ใจ “ทุกคนกลับไปได้แล้ว!”
เงาร่างที่เห็นอยู่รำไรตามต้นไม้และหน้าต่างหายวับไปในความเงียบ ราวกับไม่เคยมีตัวตนอยู่ตรงนั้น
สีหน้าของด็อกเตอร์เจนกินส์ยิ่งมืดมนลงไปอีก เขาขบกรามพูดลอดไรฟัน “ปิดประตู! ล็อกเลย!”
สิ้นเสียงนั้น ประตูข้างหลังแอนนาก็ปิดกระแทกลงอย่างแรง
เธอขมวดคิ้ว กำลังจะหันกลับไป แต่ก็สังเกตเห็นรถสปอร์ตคันหนึ่งจอดอยู่ริมถนน
ลูซี่ ฟ็อกซ์ เจ้าของผมสีแดงเพลิง กำลังยืนพิงรถอย่างสบายๆ
เมื่อเห็นแอนนาปรากฏตัว ลูซี่ก็วิ่งเข้ามาหาอย่างตื่นเต้น “แอนนา! ในที่สุดเธอก็ออกมาแล้ว!”
รอยยิ้มจางๆ ปรากฏขึ้นบนใบหน้าที่เคยไร้ความรู้สึกของแอนนาขณะมองท่าทีที่ดูโอเวอร์ของเพื่อน “เธอมาทำอะไรที่นี่?”
ลูซี่โผเข้ากอดเธออย่างดีใจ “ก็มารับเธอน่ะสิ!”
“ไปกันเถอะ” แอนนาพูดพลางสอดตัวเข้าไปในที่นั่งข้างคนขับ
ลูซี่หยิบชุดเดรสใหม่เอี่ยมออกมาจากรถ พูดอย่างภูมิใจ "ให้เธอ คอลเลกชันฤดูใบไม้ผลิล่าสุดของ เอจี เลยนะ ฉันต้องจ่ายไปเยอะเลยกว่าจะได้มา"
แอนนามองปราดเดียว “รุ่นลิมิเต็ดทั่วโลก มีแค่สองชิ้นเอง รสนิยมดีนี่”
ดวงตาของลูซี่เบิกกว้าง เสียงสูงขึ้น “เธอรู้จักแบรนด์นี้ด้วยเหรอ”
แอนนาไม่ตอบ แต่ส่งสัญญาณให้ลูซี่ขับรถ “บ้านตระกูลไรซ์คงกำลังรอฉันกลับไปอยู่แน่ๆ”
พอได้ยินดังนั้น สีหน้าของลูซี่ก็ฉายแววตื่นเต้นระคนประหม่าขึ้นมาทันที น้ำเสียงเร่งเร้า
“โอเค! คาดเข็มขัดให้แน่นล่ะ!”
เสียงเครื่องยนต์ของรถคำรามลั่นขณะที่พวกเธอขับออกไปด้วยความเร็ว
ระหว่างขับรถ ลูซี่ก็พูดไม่หยุด “ข้อมูลของวิลเลียม สเตอร์ลิงที่เธอให้ฉันไปสืบมา ฉันรวบรวมมาให้หมดแล้วนะ แต่น่าเสียดายที่ผู้ชายคนนี้ลึกลับเกินไป ไม่ค่อยมีข้อมูลที่เป็นประโยชน์เท่าไหร่”
เธอส่งแท็บเล็ตให้แอนนา “ทุกอย่างอยู่ในนี้แล้ว ลองดูสิ”
ข้อมูลมีน้อยนิดจริงๆ รายละเอียดที่เป็นประโยชน์เพียงอย่างเดียวคือขาของวิลเลียมพิการ เขาเดินไม่ได้อีกต่อไป
แอนนาพึมพำ “มิน่าล่ะ คู่ดีๆ แบบนี้ถึงหล่นมาถึงฉัน ที่แท้ก็เป็นคนพิการนี่เอง”
ลูซี่พยักหน้าหงึกๆ “ใช่เลย แล้วเธอยังจะแต่งกับเขาอีกไหม”
แอนนานิ่งเงียบ มือเลื่อนไปลูบท้องที่แบนราบของตัวเองโดยไม่รู้ตัว
สามปีก่อน ไม่นานหลังจากที่พ่อรับเธอกลับมาจากต่างจังหวัด เธอก็ถูกวางยาและมีความสัมพันธ์คืนเดียวกับชายแปลกหน้าจนตั้งท้อง
หลังคลอดลูก ภายใต้การบงการของแม่เลี้ยง พ่อของเธอก็ส่งเธอไปที่ศูนย์ฟื้นฟูสภาพจิตใจในเครือไรซ์กรุ๊ป ที่นั่นเธอต้องอยู่ถึงสามปี
ตลอดหลายปีมานี้ เธอสืบหาความจริงเรื่องที่ถูกวางยาและที่อยู่ของลูกมาตลอด แต่ทุกครั้งกลับได้รับคำตอบว่าลูกของเธอเสียชีวิตตั้งแต่แรกคลอด
แต่เธอจำได้ชัดเจนว่าได้ยินเสียงร้องของทารกก่อนจะหมดสติไปหลังคลอด
เธอเชื่อมั่นว่าลูกของเธอยังมีชีวิตอยู่
ไม่กี่วันก่อน เธอได้รับข่าวว่าหมอที่ทำคลอดให้เธอปรากฏตัวที่บ้านของตระกูลสเตอร์ลิง เธอจึงตกลงแต่งงานกับตระกูลสเตอร์ลิง
แต่ก่อนหน้านั้น เธอต้องกลับไปที่ตระกูลไรซ์เพื่อทวง ‘ดอกเบี้ย’ บางส่วนคืนให้ตัวเองและแม่ของเธอ เธอสัมผัสกำไลข้อมือเพียงชิ้นเดียวที่แม่ทิ้งไว้ให้
ในคฤหาสน์ตระกูลไรซ์ เมแกน ไรซ์ กำลังเดินกระวนกระวายไปมาในห้อง
“แม่คะ พี่เขาจะยอมแต่งงานไหมคะ ถ้าพี่เขาไม่ยอม พ่อจะบังคับให้หนูแต่งกับคนพิการนั่นแทนหรือเปล่า”
“ไม่ต้องห่วง!” เพเนโลพี ฮาวเวิร์ด ปลอบโยนเธอเบาๆ “แม่มีวิธีตั้งมากมายที่จะทำให้มันยอมแต่งเข้าตระกูลสเตอร์ลิงอย่างว่าง่าย”
ดวงตาของเมแกนฉายแววแห่งความหวัง ถามอย่างกล้าๆ กลัวๆ “จริงเหรอคะ”
เพเนโลพีพยักหน้า “แม่เคยโกหกลูกที่ไหนกัน อย่าลืมสิว่าตอนแรกที่แอนนามันถูกส่งไปโรงพยาบาลบ้านั่นได้ยังไง”
ใช่แล้ว ต้องขอบคุณการมองการณ์ไกลและการเตรียมการของเพเนโลพี พวกเขาถึงได้จัดการกับแอนนาก่อนที่เธอจะทันได้ตั้งตัวหลังจากกลับมา
ไม่เช่นนั้น ก็จะมีคนมาแย่งชิงมรดกของตระกูลเพิ่มขึ้นอีกคน
เมื่อคิดถึงตรงนี้ เมแกนก็ผ่อนคลายลง “ขอบคุณค่ะแม่”
“มีความสุขเรื่องอะไรกันอยู่เหรอ เล่าให้ทุกคนฟังบ้างสิ”
เสียงหนึ่งดังขึ้นจากด้านหลัง เพเนโลพีหันไปก็พบว่าแอนนายืนอยู่ในห้องนั่งเล่นตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้
หัวใจของเพเนโลพีหล่นวูบ แต่เธอก็รีบตั้งสติขมวดคิ้ว “ไม่มีมารยาทเอาเสียเลย ทำไมไม่ให้คนรับใช้มาแจ้งก่อน”
แอนนาเลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่งและยิ้มเย็นชา “กับแค่อีเมียน้อยอย่างเธอ ยังจะหวังให้ฉันส่งคนรับใช้มาแจ้งก่อนเข้ารึไง คิดว่าตัวเองมีหน้ามีตาขนาดนั้นเลยเหรอ”


























































































































